หากกล่าวว่า…
มนุษย์คือผู้อยู่บนจุดสูงสุดของห่วงโซ่อาหารด้วยแล้ว
สิ่งที่คอยสร้างสมดุลเพื่อไม่ให้มนุษย์มีอำนาจเหนือกว่าสิ่งมีชีวิตอื่นก็คือ
“กูล” นั่นเอง
กูล
เป็นสิ่งมีชีวิตประเภทกินเนื้อไม่ต่างจากสัตว์กินเนื้อประเภทอื่นๆ เพียงแต่อาหารของกูลคือ “มนุษย์”
และเป็นอาหารเพียงไม่กี่อย่างที่พวกกูลสามารถกินและรับรู้ถึงรสชาติได้ (พวกกูลสามารถรับรู้รสชาติของ “กาแฟ”ได้ มีลักษณะรูปร่างภายนอกเหมือนกับมนุษย์ปรกติทั่วไปทุกๆ ประการ หากอยู่ท่ามกลางคนหมู่มาก…
โดยไม่มีทางที่จะแยกออกไปได้ว่าใครเป็นมนุษย์หรือใครเป็นกูล? เมื่อกูลกินเนื้อของมนุษย์จะสามารถอยู่ได้นานเป็นเดือน โดยที่ไม่ต้องกินเพิ่ม แต่ถ้าหากพวกกูลหิวจัดเมื่อไหร่…
มันจะเป็นอะไรที่อันตรายอย่างมากเลยทีเดียว
อาหารหลังของกูลกินได้คือเนื้อมนุษย์ ซึ่งก็ไม่ต่างจาก “สัตว์ใหญ่กินสัตว์เล็ก”
ตามธรรมชาตินั่นเอง
กูลมีลักษณะทางกายภาพที่เหนือกว่ามนุษย์ปรกติทั่วไปอย่างมหาศาล
4 ถึง 7 เท่าตัว
ภายในร่างกายของกูลนั้นจะประกอบด้วย RC Cells (Red
Child) ซึ่งเป็นโครงสร้างทางโมลิกุล
ซึ่งโดยทั่วไปแล้วมนุษย์ธรรมดาที่มีสุขภาพดีจะมีค่าเฉลี่ยของ RC
Cells ในร่างกายอยู่ที่ 200-500 แต่ในร่ายกายของกูลจะมีค่าเฉลี่ยถึง
1,000-8,000 เลยทีเดียว ซึ่งค่า RC Cells พวกกูลที่มีสูงจะช่วยให้ฟื้นตัวจากอาการบาดเจ็บได้รวดเร็วก็คนธรรมดาทั่วๆ
ไป ซึ่งการจะแยกแยะค่าRC Cellsระหว่างมนุษย์ทั่วไปกับกูล สามารถทำได้โดยใช้เครื่องสแกน RC ที่ติดตั้งเอาไว้ในสำนักงาน CCG ทุกๆ
สาขาทั่วโตเกียว
กูลมีสามารถเปลี่ยนและแปรสภาพของเซลล์เม็ดเลือดแข็งตัวได้ อาจจะเรียกได้ว่าเป็น “กล้ามเนื้อแข็ง”
ที่สามารถยื่นออกมาจากร่างกายได้อย่างอิสระ
โดยจะมีอวัยวะที่เรียกว่า “คาคุโฮว”(赫包 Kakuhou = Red Wrap) ทำหน้าที่คอยเก็บกัก
RC Cells ในร่างกาย เพื่อสร้าง “อาวุธของกูล” ที่เรียกว่า
“คากุเนะ” นั่นเอง
หนึ่งในลักษณะของ “คากุเนะ” ของกูล
ในช่วงที่พวกกูลตั้งใจจะล่าเหยื่อหรือใช้คากุเนะ
ดวงตาของพวกกูลจะเปล่งประกายเป็นสีแดงฉานราวกับปิศาจ ซึ่งจะเรียกว่า “คาคุเก็น” (赫眼Kakugan = Red
Eye) ซึ่งเป็นอีกหนึ่งสิ่งเฉพาะที่บอกความเป็นกูลอีกเช่นกัน
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น